วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ดูนิสัยคน จากเดือนเกิด

ดูนิสัยคน จากเดือนเกิด
มกราคม
o ทะเยอทะยาน จริงจัง อดทน
o ชอบสั่งสอน รักการเรียนรู้ ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว
o มีความคิดสร้างสรรค์ ฉลาด เจ้าระเบียบ ทำอะไรเป็นแบบแผนขั้นตอนไม่มีนอกลู่นอกทางแม้แต่น้อย
o อ่อนไหว ช่างคิดรู้วิธีทำให้คนอื่นมีความสุข
o ปกติจะเงียบขรึมถ้าไม่ได้กำลังตื่นเต้น หรือ เข้าสู่ภาวะคับขัน
o สงบเสงี่ยม กระตือรือร้น โรแมนติกแต่ไม่ค่อยยอมแสดงออกเท่าไร
o ห่วงใยใส่ใจคนอื่น แต่ไว้วางใจใครง่ายไปหน่อย
o ติดบ้าน
o ซื่อสัตย์ ขี้อาย
o ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม แถมขี้ หึงอีกต่างหาก
กุมภาพันธ์
o ช่างฝัน รักทั้งโลกแห่งความเป็นจริงและโลกแห่งความฝัน
o ไหวพริบปฏิภาณดี ฉลาด หากแต่บุคลิกภาพแปรปรวนไปนิด
o เจ้าอารมณ์ เงียบ ขี้อาย สุภาพ ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง
o ซื่อสัตย์
o ชอบตั้งเป้าหมายในชีวิต
o รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด
o ขบถได้ง่ายถ้าถูกบีบคั้น แอบก้าวร้าวบ้างบางครั้ง แต่ที่จริงอ่อนไหวมาก เสียใจง่าย ! โกรธก็ง่าย
o ไม่ชอบเรื่องไร้สาระ ชอบคบเพื่อนฝูงใหม่ๆ น่ารักๆ
o รักกิจการงานบันเทิงทุกชนิดโรแมนติกลึกๆ แต่ไม่แสดงออก
o เชื่อถือโชคลาง
o ใช้จ่ายเงินเก่ง
มีนาคม
o มีเสน่ห์ เป็นที่รักของผู้อื่น
o ขี้อาย สงบเสงี่ยม ลึกลับ
o ซื่อตรง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจ รักสันติและความสงบ
o อ่อนโยน ชอบเอาอกเอาใจคนอื่น
o ใจเย็น ไว้ใจได้
o เห็นค่าคนอื่น ใจดี
o เคร่งศีลธรรม แต่ติดนิสัยชอบประเมินคนอื่น
o เจ้าคิดเจ้าแค้น แถมยังเพ้อฝัน ชอบสร้างจินตนาการ
o รักการเดินทาง
o รักการเป็นจุดสนใจ
o ใจเร็วไปนิดถ้าคิดจะลงหลักปักฐานกับใคร
o ชอบตกแต่งบ้านเอง
o มีพรสวรรค์ เรื่องดนตรี รักข้าวของแปลกๆ
o ข้อควรระวังคืออารมณ์หงุดหงิดง่าย
เมษายน
o กระตือรือร้น ไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่
o เข้มแข็งเด็ดขาด แต่กลับใจอ่อนอย่างไม่น่าเชื่อกับคำขอโทษ
o ดึงดูดใจและเป็นที่รักของผู้คน ใจแข็ง
o รักการเป็นจุดสนใจ
o พูดจาฉลาดถนอมน้ำใจทุกฝ่าย
o ชอบปลอบโยน
o มนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบเสนอแนะแก้ปัญหาให้คนอื่น
o กล้าหาญ ชอบผจญภัย
o สุภาพเอื้อเฟื้อ แต่เจ้าอารมณ์ ชอบกระตุ้นทั้งตัวเองและคนรอบข้าง
o และขี้หึงมากเช่นกัน
พฤษภาคม
o ดื้อดึง ใจแข็ง กล้าแกร่ง
o ตั้งใจมั่น แรงจูงใจสูง
o หลักแหลม
o โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน
o ชอบการเป็นจุดสนใจ
o นิ่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์มากนัก
o มีจุดยืนของตัวเอง แข็งนอก อ่อนใน
o มีอิทธิพล แต่ก็มีเสน่ห์
o ชอบปลอบโยนผู้อื่น
o มีระบบระเบียบ เพ้อฝัน ถือโชคลาง
o มีสัมผัสพิเศษ เข้าอกเข้าใจจินตนาการกว้างไกล
o รักการเดินทาง ไม่ชอบอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ไม่ชอบหยุดนิ่ง
o ทำงานหนัก ความรับผิดชอบสูง แต่สุรุ่ยสุร่ายไปหน่อย
มิถุนายน
o คิดการณ์ไกล หัวก้าวหน้า
o ใจอ่อนกับคนใจดี
o สุภาพ พูดจาเบามีความคิดสร้างสรรค์มากมาย
o อ่อนไหว ชอบคิดค้น เสียตรงที่ขี้ลังเล
o ไม่รักษาเวลา
o สนุกสนาน มีอารมณ์ขัน ชอบเรื่องตลก
o มีทักษะดีในการโต้แย้ง ช่างพูดช่างคุย ชอบฝันกลางวัน
o เป็นมิตร รู้ว่าจะหาเพื่อนได้อย่างไร
o อดทน
o ชอบแสดงออก เสียใจง่าย ชอบแต่งตัว
o ขี้เบื่อ นานๆ จะแสดงอารมณ์ออกมาซักที ถ้าเสียใจต้องใช้เวลานานในการเยียวยา
o ชอบการบริหาร
o หัวรั้น
o ถือคติแปลกๆ ว่าใครประจบประแจงคือศัตรู ส่วนเพื่อนแท้ต้องไม่กลัวที่จะขัดใจ
กรกฎาคม
o อยู่ด้วยแล้วสนุก มีเสน่ห์
o เก็บความลับได้ แต่ยากที่จะเข้าถึงตัวตนที่แท้จริง
o เงียบถ้าไม่มีอะไรตื่นเต้น
o หยิ่งทะนงในตัวเอง ช่างเลือก
o มีความรับผิดชอบ ชอบปลอบโยนคนอื่น
o ซื่อตรง ซื่อสัตย์
o สนใจความรู้สึกคนรอบข้าง
o มีไหวพริบ
o ใจดี ไม่ผูกใจเจ็บใคร
o ไม่ชอบเรื่องไร้สาระทั้งหลาย
o มีอิทธิพลต่อคนอื่นทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ
o อ่อนไหว ไม่ไว้วางใจใครง่ายๆ
o ห่วงใยใส่ใจคนอื่น ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเท่าเทียม เห็นอกเห็นใจ
o แย่ตรงที่ชอบตัดสินคนอื่นเพียงเพราะสิ่งที่สังเกตเอาเอง
o รักการเดินทาง ศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม
o เรียนดี!
o ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย
o เสียใจง่ายแถมต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย
o ทุ่มเททุกอย่างให้งาน
สิงหาคม
o ชอบเรื่องตลก
o มีเสน่ห์ สุภาพอ่อนโยน
o ใส่ใจคนอื่น
o กล้าหาญไม่เคยกลัวอะไรทั้งสิ้น
o มั่นคงเด็ดเดี่ยว เป็นผู้นำเต็มตัว
o รู้ว่าต้องดูแลปลอบโยนคนอื่นอย่างไร แต่เสียตรงที่เอื้อเฟื้อเกินไป
o มั่นใจตัวเองเกินไป
o เรียกร้องต้องการการยกย่องนับถือมุ่งมั่นแรงกล้าสุดๆ
o แถม โกรธง่ายเกินเหตุ โดยเฉพาะเมื่อถูกแหย่หรือกระตุ้น
o ขี้หึง
o เคร่งศีลธรรม
o หุนหันพลันแล่น
o ความคิดอิสระไม่ค่อยเหมือนใคร
o รักทั้งการเป็นผู้นำและถูกนำ
o ช่างฝัน มีพรสวรรค์เรื่องศิลปะดนตรี และกลไกการป้องกันตัว
o อ่อนไหวเหมือนกันแต่ไม่ค่อยจะอยากยอมรับ ยุ่งเหยิงวุ่นวาย ตลอดเวลา
o โรแมนติค รักใคร่และห่วงใยคนอื่น
o ชอบคบหาเพื่อนฝูงใหม่ๆ
กันยายน
o สุภาพอ่อนโยน ประนีประนอม
o ระวังตัวแจ
o วางขั้นตอนชีวิตอย่างเป็นแบบแผน
o ชอบตอกย้ำจุดอ่อนคนอื่น
o ชอบการวิพากษ์วิจารณ์
o เยือกเย็นและสงบ
o ใจดี เห็นอกเห็นใจคนอื่น
o รอบรู้เรื่องต่างๆ
o ซื่อตรง
o ทำงานเก่ง
o อ่อนไหว
o ช่างคิด
o ความจำดี สนใจใฝ่รู้
o ชอบการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ
o มีแรงจูงใจ เข้าอกเข้าใจ
o เก็บความลับอยู่
o รักกีฬากิจกรรมยามว่าง และ การเดินทาง
o ไม่แสดงอารมณ์เสียจนเกือบจะเป็นคนเก็บกด
o ช่างเลือกโดยเฉพาะเรื่องแฟน
ตุลาคม
o รักการพูดคุยเป็นชีวิตจิตใจ
o รักทุกคนที่รักตัวเอง
o รักการเจาะเข้าสู่จุดศูนย์กลางของเรื่องต่างๆ
o มีเสน่ห์
o สุภาพนุ่มนวล
o จิตใจและรูปร่างสวยงาม
o ไม่โกหกเสแสร้ง
o เห็นอกเห็นใจคนอื่น
o ให้ความสำคัญกับเพื่อน ชอบคบหาเพื่อนใหม่อยู่เรื่อย
o เสียใจง่ายก็จริงแต่ไม่ต้องห่วง แป๊บเดียวก็หายเศร้า
o ชอบช่วยเหลือคนอื่น
o ชอบฝันกลางวัน ความคิดบรรเจิด
o มีสัมผัสพิเศษ
o รักการเดินทาง ศิลปะ และวรรณกรรม
o พูดจานุ่มนวล รักและใส่ใจคนอื่น โรแมนติก ขี้หึง
o เป็นห่วงเป็นใย รักความยุติธรรม
o เชื่อคนง่าย เพราะมองโลกสวยงาม
o สูญเสียความเชื่อมั่นง่ายมาก
พฤศจิกายน
o ความคิดล้านแปดเต็มหัว ยากที่จะเข้าถึง คิดการณ์ล้ำหน้า
o โดดเด่นหัวไว ใส่ใจและชอบให้คำแนะนำ
o อยากรู้อยากเห็น
o รู้จักวิธีตะล่อมคุ้ยความลับ
o ชอบคิดอยู่ตลอดเวลา
o พูดน้อยแต่อัธยาศัยดี
o กล้าหาญและเอื้อเฟื้อ
o อดทน หัวรั้น ใจแข็ง ถือคติ ตราบใดที่ยังมีความหวัง ตราบนั้นก็ยังมีหนทางเสมอ
o มีเป้าหมายในชีวิต ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
o โกรธยากมากถ้าไม่ถูกยั่วจนถึงขั้นจริงๆ
o ชอบอยู่คนเดียว
o มีแรงจูงใจในตัวเอง โดยไม่สนใจการยอมรับนับถือจากคนอื่น
o มั่นคง เด็ดเดี่ยว
o รักใครรักจริง
o เจ้าอารมณ์
o โรแมนติก แต่ไม่ค่อยสนใจสัมพันธ์จริงจังนัก
o รักบ้าน
o ทำงานหนัก
o มีความสามารถสูง
o ไว้ใจได้
ธันวาคม
o ซื่อสัตย์และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
o กระตือรือร้นในการแข่งขัน และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
o แต่ ไม่ค่อยมีความอดทน
o ทะเยอทะยาน มีอิทธิพลในสังคม
o รักการเข้าสังคมมาก
o รักการได้รับการยอมรับ การเป็นจุดสนใจ
o รักการที่มีคนอื่นมารักตัวเอง
o ซื่อตรงและไว้ใจได้ ไม่เสแสร้ง แต่อารมณ์เสียง่าย
o เกลียดการถูกบีบบังคับ
o รักเรื่องตลก มีอารมณ์ขันและมีเหตุผล

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กำเนิด ประวัติ เรื่องราวความเป็นมา พระอุปคุต - คัมภีร์อโศกอวทาน


รื่องราวความเป็นมาของท่าน จากที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์อโศกอวทาน มีกล่าวไว้ว่า พระอุปคุตเถระ ท่านถือกำเนิด มาในตระกูลของพ่อค้า ที่เมืองมถุราซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนา ท่านมีพี่ชาย 2 คน ส่วนท่านนั้น เป็นคนสุดท้อง มูลเหตุที่ทำให้พระอุปคุตได้บวชนั้น ก็สืบเนื่องมาจาก บิดาของท่าน ได้เคยให้สัญญาไว้กับ พระเถระรูปหนึ่ง คือ พระสาณวาสี ว่าถ้าตนมีลูกชาย ก็จะให้บวชในพระพุทธศาสนา ทีนี้พอมีลูกชายคนแรก ก็ไม่ยอมให้บวช ด้วยอ้างว่าจะต้องเอาไว้ดูแลทรัพย์สิน ในเหย้าเรือน เอาไว้ถ้ามีลูกชายคนที่ 2 เมื่อไร แล้วจะยอมให้บวช แต่พอมีลูกชายคนที่ 2 เข้าจริง ๆ ก็หาเรื่องบิดเบือนอีก ว่ามีความจำเป็น ต้องเอาไว้สำหรับ ทำธุระตามหัวเมือง ขอให้รอไว้มีลูกชายคนที่ 3 แล้วจะต้องบวชให้อย่างแน่นอน

พอ ลูกชายคนที่ 3 ซึ่งมีชื่อว่า “อุปคุต” เกิดมาก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้กับสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระเถระ พระเถระท่านเห็นว่า ยังไม่ถึงเวลา ท่านจึงนิ่งไว้ก่อน และก็ไม่ได้ไปทวงถามถึงสัญญานั้น จนกระทั่งอุปคุตโตเป็นหนุ่ม

ตอน นั้นอุปคุตได้มาช่วยบิดาขายเครื่องหอมอยู่ที่ร้านในตลาด ตั้งแต่อุปคุตมาอยู่ที่ร้าน ก็ปรากฎว่า เครื่องหอม ขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ผู้คนมาซื้อหากันไม่ขาดสาย นี่เป็นธรรมดาของผู้มีบุญไปอยู่ที่ไหน ทรัพย์สิน ก็จะหลั่งไหลมา ด้วยอำนาจแห่งบุญ

เพราะฉะนั้นจึงเชื่อกันว่า ผู้ที่ค้าขาย หากได้บูชาพระอุปคุตเป็นประจำทุกเช้าตอนเปิดร้าน ก็จะทำให้ค้าขายดี มีคนมาซื้อหาไม่ขาดสายทรัพย์สิน ก็จะหลังไหลมาเทมา กิจการเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป

วัน หนึ่งพระสาณวาสีเถระ ได้แวะเข้าไปในร้านที่อุปคุตขายของ และได้กล่าวธรรมกถาให้อุปคุตฟัง ปรากฏว่า อุปคุตฟังแล้ว เกิดสังเวช ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น ในพระพุทธศาสนา เมื่อพระสาณวาสีเถระเห็นว่า อุปคุตได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว จึงได้ไปทวงสัญญากับนายพาณิชย์ ผู้เป็นพ่อของอุปคุต “ไหนว่าจะถวายลูกชายคนที่ 3 แก่อาตมา เพื่อให้บวชยังไงล่ะ” พอนายพาณิชย์ถูกทวงถามเช่นนั้น ก็อับจนปัญญา ไม่อาจหาวิธีพูดบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงได้อีก จึงตัดสินใจอนุญาตให้อุปคุตออกบวชได้

กิตติศัพท์ขจรขจาย

เมื่ออก บวชแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ตั้งใจเจริญกรรมฐาน จนได้บรรลุพระอรหันต์ เป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงสุด ในพระพุทธศาสนา และต่อมาท่านพระอุปคุต ก็ได้เป็น พระอาจารย์สอนกรรมฐานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มากที่สุด ในยุคนั้น โดยในคัมภีร์ได้กล่าวว่า ท่านมีพระอรหันต์ผู้เป็นศิษย์อยู่ถึง 18,000 รูป ส่วนสำนักของท่าน ตั้งอยู่ ณ วัดนตภัติการาม ภูเขาอุรุมนท์

ศรัทธาของพระเจ้าอโศก

กิตติศัพท์ ด้านความรู้ความสามารถของท่านได้แพร่สะพัดไป จนทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ จึงตั้งพระทัย จะเสด็จไปอาราธนา ท่านพระอุปคุตให้มาโปรดยังกรุง ปาฏลีบุตร

แต่ วิสัยของพระอรหันต์ผู้ยิ่งด้วยอภิญญาเฉกเช่นท่านพระอุปคุตนั้น เพียงแค่พระเจ้าอโศกทรงดำริเท่านั้น ท่านก็ทราบแล้ว จึงได้รีบลงเรือเดินทางมาสู่กรุงปาฏลีบุตรในทันที ฝ่ายพระเจ้าอโศก เมื่อทรงทราบว่า ท่านพระอุปคุต ได้เดินทางมาแล้ว จึงได้โปรดให้ตั้งพิธีต้อนรับ และเสด็จมารับ ท่านพระอุปคุต ด้วยพระองค์เอง อันเป็นตำนาน ที่ปรากฎอยู่ ใน คัมภีร์อโศอวทาน